ปีทาโกรัส (Pythagoras)


เกิด 582 ก่อนคริสต์ศักราช ที่เมืองซามอส (Samos) ประเทศกรีซ(Greece)
เสียชีวิต 507 ก่อนคริสต์ศักราช ที่เมืองเมตาปอนตัม (Metapontum)

ปีทาโกรัส
เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะของนักคณิตศาสตร์ผู้คิดค้นสูตรคูณ หรือตารางปีทาโกเรียน (Pythagorean
Table)และทฤษฎีบทในเรขาคณิตที่ว่า " ในรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใด
ๆ กำลังสองของความยาวของด้านตรงข้ามมุมฉาก
เท่ากับผลบวกของกำลังสองของความยาวของด้านประกอบมุมฉาก " ซึ่งทฤษฎีทั้งสองนี้เป็นที่ยอมรับ
และใช้กันมาจนปัจจุบันนี้
สิ่งที่สำคัญและถือได้ว่าเป็นทฤษฎีของปีธากอรัสที่มีชื่อเสียง
คือ ความสัมพันธ์ของด้าน 3 ด้านของสามเหลี่ยมมุมฉาก
ซึ่งความรู้นี้มีมาก่อนแล้วกว่า 700 BC แต่การนำมาพิสูจน์อ้างอิงและรวบรวมได้กระทำในยุคของปีธากอรัสนี้

ปีธากอรัสได้กล่าวว่า ด้านของสี่เหลี่ยมจัตุรัส
มีขนาดสั้นกว่าเส้นทแยงมุม
และจุดนี้เป็นข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเลขมีลักษณะเป็นตัวเลขอตรรกยะ (irrational)
คือ
ตัวเลขที่หาขอบเขตสิ้นสุดไม่ได้ ดังตัวอย่างเช่น
ซึ่งไม่มีใครสามารถหาจุดสิ้นสุดของค่าของจำนวนอตรรกยะนี้ได้
ในยุคนั้นจึงให้ความสนใจในเรื่องของจำนวน ตัวเลข และเรขาคณิต
หลังจากปีทาโกรัสกลับจากประเทศอิยิปต์ก็พบว่า
เกาะซามอสตกอยู่ภายใต้การยึดครองเปอร์เซีย จึงอพยพไปอยู่ที่เมืองโครโตนา(Crotona)
เมืองท่าของชาวกรีกซึ่ีงตั้งอยู่ตอนใต้ของประเทศอิตาลีในปัจจุบัน
ที่นี่ปีทาโกรัสได้ก่อตั้งสำนักปีทาโกเรียน(Pythagorean School)
สำนักนี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการศึกษา ปรัชญา คณิตศาสตร์
และธรรมชาติวิทยาหรือวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับปีธากอรัสและสาวก
เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับธรรมชาติหลายอย่าง
ปีธากอรัสได้กล่าวถึงลักษณะของด้านและมุมของรูปสามเหลี่ยม และรูปหลายเหลี่ยมต่าง ๆ
จนถือได้ว่าเป็นพื้นฐานแห่งทฤษฎีบทหลายบทจนถึงปัจจุบัน เช่น
ผลบวกของมุมภายในของสามเหลี่ยมใด ๆ มีค่าเท่ากับสองมุมฉาก
และยังสามารถขยายต่อไปอีกว่า ในรูปสามเหลี่ยมที่มีจำนวนด้านเท่ากับ n ผลบวกของมุมภายในรวมเท่ากับ
2n - 4 มุมฉาก
โรงเรียนของปีทาโกรัสมีผู้ให้ความสนใจส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนจำนวนมาก
ทั้งพระมหากษัตริย์ ขุนนางราชสำนักและพ่อค้าคหบดีที่มั่งคั่ง ผู้ที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ได้มีการตั้งชุมนุม
โดยใช้ชื่อว่า "ชุมนุมปีทาโกเรียน (Pythagorean)" ซึ่งผู้ที่จะสมัครเข้าชุมนุมปีทาโกเรียนจะต้องมีความรู้ด้านคณิตศาสตร์เป็นอย่างดี
อีกทั้งจะไม่เผยแพร่ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ให้กับผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของชุมนุมชุมนุมปีทาโกเรียนมีบทบาทอย่างมากในเรื่องของวิทยาศาสตร์ในยุคนั้น
อีกทั้งเป็นชุมนุมแรกที่มีความเชื่อว่า
โลกกลมและไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลอีกทั้งต้องโคจรอีกด้วย
ปรัชญาของสำนักปีทาโกเรียนมีว่า
จำนวนครอบครองจักรวาล (Numbers rule the universe) ปีทาโกรัสคิดว่าปริมาณต่าง
ๆ ในธรรมชาติสามารถเขียนในรูปของจำนวนนับ จนมีคำขวัญของสำนักว่า ทุกสิ่ง คือ
จำนวนนับ
สัญลักษณ์ที่สำนักปีทาโกเรียนใช้คือ รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าที่ประกอบด้วยจุดทั้งหมด
10 จุด ดังรูป
แต่ละด้านของรูปสามเหลี่ยมประกอบด้วย 4 จุด
และมีจุดรวมทั้งหมด 1 + 2 + 3 + 4 = 10 จุด
สำนักปีทาโกเรียนมีความเชื่อต่างจากผู้อื่น
เช่น การปฏิเสธที่จะกินถั่ว ดื่มไวน์ เก็บของที่ตกหรือการใช้เหล็กเขี่ยไฟ
สัญลีกษณ์ที่สมาชิกของสำนักปีทาโกเรียนใช้เพื่อสื่อความหมายของสมาชิกสำนักเดียวกัน
คือ รูปดาวห้าแฉก ดังรูป

แนวคิดที่สำคัญของปีธากอรัสและสาวกคือ
หลายสิ่งหลายอย่างสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ด้วยคณิตศาสตร์
ทำให้การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง
ปีธากอรัสและสาวกได้ทำการพิสูจน์ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์หลายเรื่อง
และต่อมาทฤษฎีเหล่านี้เป็นรากฐานของวิทยาการในยุคอียิปต์
ต่อมามีการค้นพบจำนวนอตรรกยะ
ทำให้ปีทาโกรัสและลูกศิษย์ทั้งหลายเสียขวัญและกำลังใจ
ปีทาโกรัสเป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ตั้งทฤษฎีเกี่ยวกับโลกกลม
และหมุนรอบตัวเองรวมถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ ก็หมุนรอบตัวเองเช่นกัน
ซึ่งทฤษฎีนี้ในเวลาต่อมานักดาราศาสตร์อย่างโคเปอร์นิคัส และกาลิเลโอ
ได้นำมาพิสูจน์แล้วพบว่าทฤษฎีนี้ถูกต้อง ไม่เพียงแต่งานด้านคณิตศาสตร์เท่านั้นที่ปิทาโกรัสให้ความสนใจ
เขายังมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องแสงด้วย การค้นคว้าของปีทาโกรัสทำให้เขารู้ความจริงว่า
มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นแสงสว่างได้ เพราะแสงสว่างเป็นเพียงอนุภาคเล็ก ๆ เท่านั้น
แต่แสงสว่างเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เรามองเห็นวัตถุ เนื่องจากแสงตกกระทบไปที่วัตถุ
ทำให้วัตถุนั้นสะท้อนแสงมากระทบกับตาเราดังเช่นที่เราสามารถมองเห็นดวงจันทร์มีแสง
ก็เพราะแสงจากดวสงอาทิตย์ที่ส่องไปยังดวงจันทร์และสะท้อนกลับมายังโลกทั้งที่ดวงจันทร์ไม่มีแสง
แต่เราก็สามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้
นอกจากเรื่องแสงแล้ว
ปีทาโกรัสได้ค้นพบเกี่ยวกับเรื่องเสียงด้วย
การค้นพบของเขาสรุปได้ว่าเสียงเกิดจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ การพบความจริงข้อนี้เนื่องจากวันหนึ่งเขาได้เดินผ่านร้านตีเหล็กแห่งหนึ่ง
ปีทาโกรัสได้ยินเสียงที่เกิดจากช่างตีเหล็กใช้ค้อนตีแผ่นเหล็กแผ่นเหล็กนั้นสั่นสะเทือน
ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดเสียง การสังเกตของพีธากอรัสต่อสิ่งแวดล้อม
เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและเป็นรากฐานความคิดในยุดต่อไป


อนุสาวรีย์พีทาโกรัสที่เกาะซามอส
ผลงาน
-สร้างสูตรคูณหรือตารางปีทาโกเรียน (Pythagorean Table)
-ทฤษฎีบทเรขาคณิตที่ว่า "ในรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใด ๆ กำลังสองของความยาว
ของด้านตรงข้ามมุมฉาก เท่ากับผลบวกของกำลังสองของความยาวของด้าน ประกอบ
มุมฉาก"
-สมบัติของแสง และการมองวัตถุ
-สมบัติของเสียง
เมื่อ a,b,c,d เป็นจำนวนเต็มบวกใดๆ จะได้ว่า 22 + 32 + 62 = 72
และ 52 + 62 + 302 = 312

เกร็ดความรู้
(Pythagoreantriples)บนแผ่นดินเหนียว ได้แก่ 45 60 และ 75 ในเวลาต่อมามีการคิดค้นทฤษฎ๊บทปีทาโกรัสในสามมิติ
เมื่อ a,b,c,d เป็นจำนวนเต็มบวกใดๆ จะได้ว่า 22 + 32 + 62 = 72
และ 52 + 62 + 302 = 312
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น